คำว่า "อาทิ, เช่น, เป็นต้น, ได้แก่"
คำว่า อาทิ, เช่น, เป็นต้น, ได้แก่
มีหลักเกณฑ์หรือวิธีใช้อย่างไรหรือไม่
เป็นคำถามหนึ่งที่ราชบัณฑิตยสถานมักได้รับจากครูอาจารย์ผู้ที่ต้องเขียน
ตำรับตำรา นักเขียน หรือสำนักพิมพ์
ในที่นี้จะไม่ขอกล่าวถึงการใช้ตามความนิยมและตามเหตุผลเฉพาะตัวบุคคลที่ยัง
มีการใช้ว่า "เช่น...เป็นต้น", "อาทิเช่น", ได้แก่...ฯลฯ"
ว่าเป็นเรื่องผิดหรือถูกหรือเหมาะสมไม่เหมาะสมประการใดหรือไม่
เพราะหากผู้ใช้ยืนยันการใช้ด้วยมีเหตุผลและความนิยมเฉพาะตัว
ย่อมอยู่นอกเหนือหลักเกณฑ์ทางภาษาที่ราชบัณฑิตยสถานกำหนดและมีแบบแผนไว้
ทั้งนี้ศาสตราจารย์พิเศษจำนงค์ ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต
ประธานคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยแห่งราชบัณฑิตยสถาน
ได้ให้ข้อมูลว่า
ราชบัณฑิตยสถานมีหลักเกณฑ์การใช้คำดังกล่าวเป็นแบบแผนสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
ว่า
คำว่า "เช่น"
ใช้ยกตัวอย่างซึ่งตัวอย่างดังกล่าวไม่ได้อยู่ในชุด กลุ่มของเรื่องเดียวกัน
และไม่ต้องเรียงตามลำดับ เช่น "มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้าน เช่น สุนัข แมว
เป็ด ไก่ ฯลฯ" ทั้งนี้คำว่า "เช่น" ที่ใช้ในกรณีนี้ไม่มีคำว่า "เป็นต้น"
ปิดท้ายตัวอย่าง ส่วนเครื่องหมายไปยาลใหญ่คือ ฯลฯ นั้น
จะใช้ปิดท้ายตัวอย่างนั้นหรือจะไม่ใช้ก็ได้
คำว่า "ได้แก่" ใช้ระบุถึงสิ่งที่อยู่ในชุดเดียวกับครบทั้งชุด เช่น "อริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค"
คำว่า "เป็นต้น"
อยู่ท้ายตัวอย่างคำที่อยู่ในชุดเดียวกัน
ซึ่งเรียงลำดับจากลำดับแรกเป็นต้นไป แต่ไม่ต้องแสดงตัวอย่างทั้งหมด เช่น
"อริยสัจ ๔ มี ทุกข์ สมุทัย เป็นต้น"
คำว่า "อาทิ" มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า
"เป็นต้น" แต่คำว่า "อาทิ" ตามด้วยตัวอย่างในลำดับแรก เช่น "อริยสัจ ๔ อาทิ
ทุกข์" อย่างไรก็ตาม คำว่า "อาทิ" ที่อยู่ท้ายตัวอย่างก็มี
ซึ่งตัวอย่างนั้นต้องเป็นตัวอย่างลำดับแรก เช่น "อริยสัจ ๔
มีทุกข์เป็นอาทิ"
หลักเกณฑ์และแบบแผนนี้ถือเป็นมติของคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการ
ใช้ภาษาไทยแห่งราชบัณฑิตยสถาน
และนักวรรณศิลป์ซึ่งเป็นนักวิชาการของราชบัณฑิตยสถานได้ใช้เป็นแบบแผนสืบ
เนื่องมาในการทำงานวิชาการของราชบัณฑิตยสถาน
ตลอดจนนำไปใช้ในการตอบคำถามเพื่อให้บริการประชาชนที่สงสัยในเรื่องดังกล่าว.
โดยคุณสุปัญญา ชมจินดา
0 comments:
Post a Comment